🌿

ว่านหางจระเข้ วิธีปลูก การดูแล สรรพคุณ และประโยชน์ครบวงจร

Aloe vera (L.) Burm.f.

ชื่อสามัญ: ว่านไฟไหม้, หางตะเข้, Star Cactus, Barbados Aloe, Burn Aloe, First Aid Plant

วงศ์: XANTHORRHOEACEAE (วงศ์ย่อย ASPHODELOIDEAE) | ถิ่นกำเนิด: ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และตอนใต้ของทวีปแอฟริกา

เป็นพิษต่อสัตว์เลี้ยง ช่วยฟอกอากาศ พืชสมุนไพร

การรดน้ำ

รดน้ำน้อย (สัปดาห์ละครั้ง)

แสงแดด

แสงแดดโดยตรง

ระดับความยาก

ง่าย - เหมาะสำหรับมือใหม่

อุณหภูมิ

20-35°C (ทนร้อนได้ดี ไม่ทนหนาวจัด)

ความสูง

0.5-1 เมตร

การเจริญเติบโต

ช้า

ข้อมูลทั่วไป

ว่านหางจระเข้ (Aloe vera) เป็นหนึ่งในสมุนไพรที่มีชื่อเสียงโด่งดังและเป็นที่รู้จักทั่วโลก ด้วยสรรพคุณทางยาและความงามที่มีมาอย่างยาวนานหลายพันปี ทำให้ได้รับการขนานนามว่า “สมุนไพรมหัศจรรย์จากธรรมชาติ” ชื่อ “ว่านหางจระเข้” มาจากลักษณะใบที่เรียวยาวและมีหนามด้านข้าง คล้ายกับหางของจระเข้

ข้อมูลทั่วไปของว่านหางจระเข้

รายละเอียด ข้อมูล
ชื่อวิทยาศาสตร์ Aloe vera (L.) Burm.f.
ชื่อพ้อง Aloe barbadensis Mill.
ชื่อสามัญ Aloe Vera, Star Cactus, Barbados Aloe, Burn Aloe
ชื่อไทยอื่นๆ ว่านไฟไหม้ (เหนือ), หางตะเข้ (กลาง)
วงศ์ XANTHORRHOEACEAE (วงศ์ย่อย ASPHODELOIDEAE)
ถิ่นกำเนิด ชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และตอนใต้ของทวีปแอฟริกา
ประเภทพืช ไม้ล้มลุกอวบน้ำ หลายปี
ความสูง 0.5-1 เมตร
อายุขัย สามารถมีชีวิตได้ถึง 100 ปี หากดูแลดี

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์

ลำต้น

ลำต้นสั้น เป็นข้อปล้องสั้น ทรงพุ่มแผ่เป็นรัศมี แตกหน่อได้มาก ต้นแก่จะมีหน่อเล็กๆ ของต้นอ่อนแตกออกมา

ใบ

  • ใบเดี่ยว เรียงเวียนถี่รอบต้นเป็นกระจุก (rosette)
  • ใบหนาและยาว อวบน้ำ กว้าง 5-12 ซม. ยาว 30-80 ซม.
  • สีเขียวอ่อนหรือเขียวเข้ม ใบอ่อนมีจุดสีขาว
  • โคนใบใหญ่ ปลายใบแหลม
  • ขอบใบหยักเป็นหนามแหลมเล็กๆ สีขาว เรียงห่างกัน
  • ภายในใบเป็น วุ้นใส (gel) มีเมือกเหนียว 99.5% ของเนื้อวุ้นคือน้ำ

ดอก

  • ออกดอกเป็นช่อกระจะที่ปลายยอด ก้านช่อดอกยาว 60-90 ซม.
  • ดอกย่อยเป็นหลอดห้อยลง รูปแตร สีส้มอ่อนหรือแดงอมเหลือง
  • กลีบดอกโคนเชื่อมกัน ปลายแยกเป็น 6 กลีบ เรียงเป็น 2 ชั้น
  • ดอกบานจากล่างขึ้นบน กว้าง 7 มม. ยาว 2-3 ซม.
  • ออกดอกในช่วงฤดูหนาวหรือฤดูร้อน

ผล

ผลแห้ง แตกได้ รูปกระสวย

สารสำคัญในว่านหางจระเข้

กลุ่มสาร ชื่อสาร สรรพคุณ
Glycoprotein Aloctin A ต้านการอักเสบ สมานแผล
Polysaccharide Acemannan กระตุ้นภูมิคุ้มกัน
Anthraquinones Aloin, Emodin, Aloetic Acid ยาระบาย ต้านจุลชีพ
วิตามิน A, C, E, B12 ต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิว
แร่ธาตุ สังกะสี แคลเซียม แมกนีเซียม บำรุงร่างกาย
กรดอะมิโน กรดอะมิโนจำเป็น 20 ชนิด ซ่อมแซมเนื้อเยื่อ

สรรพคุณและประโยชน์

สรรพคุณภายนอก

  • รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก – บรรเทาอาการปวดแสบปวดร้อน ป้องกันรอยแผลเป็น
  • บำรุงผิวพรรณ – ช่วยให้ผิวชุ่มชื้น ลดริ้วรอย
  • รักษาสิว – ต้านแบคทีเรีย ลดการอักเสบ
  • รักษาผิวไหม้แดด – ฤทธิ์เย็น ช่วยสมานผิว
  • บำรุงเส้นผม – ลดผมร่วง ทำให้ผมนุ่มสลวย
  • แก้ผื่นคัน แมลงกัดต่อย – ลดอาการบวม อักเสบ

สรรพคุณภายใน

  • รักษาแผลในกระเพาะอาหาร – ลดกรด ปกป้องเยื่อบุกระเพาะ
  • บรรเทาอาการกรดไหลย้อน – ลดการผลิตกรด
  • ยาระบาย แก้ท้องผูก – กระตุ้นการบีบตัวของลำไส้
  • รักษาสุขภาพช่องปาก – ลดคราบพลัค ป้องกันโรคเหงือก
  • ลดระดับน้ำตาลในเลือด – ช่วยผู้ป่วยเบาหวาน

วิธีปลูกว่านหางจระเข้

การเตรียมดินและกระถาง

  • ดิน: ดินร่วนซุย ปนทราย ระบายน้ำได้ดี ห้ามใช้ดินเหนียว
  • กระถาง: ทรงลึก ปากกว้าง 1 ฟุตขึ้นไป มีรูระบายน้ำ
  • ส่วนผสมดิน: ดินร่วน 2 ส่วน + ทราย 1 ส่วน + ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน

การเลือกต้นพันธุ์

  • ต้นที่มีใบยาวประมาณ 1 ฝ่ามือ หรือมีใบ 8-10 ใบ
  • พันธุ์ที่นิยม: Aloe barbadensis Mill.

ขั้นตอนการปลูก

  1. ขุดหลุมลึกประมาณ 10-20 ซม.
  2. ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยอินทรีย์เล็กน้อยที่ก้นหลุม
  3. นำต้นพันธุ์ลงปลูก ถมดินให้เสมอโคนต้น
  4. รดน้ำพอชุ่ม รอดินแห้งก่อนรดครั้งต่อไป

การดูแลรักษา

การรดน้ำ

  • หน้าฝน: ไม่จำเป็นต้องรดน้ำ
  • หน้าแล้ง: รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง
  • วิธีรด: ให้น้ำแบบฝอยกระจาย หรือรดที่โคนต้น
  • ข้อห้าม: ห้ามรดราดลงบนต้น จะทำให้น้ำขังในกาบใบและเน่า
  • ปล่อยให้ดินแห้งสนิทก่อนรดน้ำครั้งต่อไป

แสงแดด

  • ชอบแสงแดดจัด ไม่ควรมีร่มเงา
  • ต้องได้รับแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 6 ชั่วโมง/วัน

การให้ปุ๋ย

  • ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมัก: เดือนละครั้ง ปริมาณ 1-1.5 ตัน/ไร่/ปี
  • ปุ๋ยเคมี: สูตร 30-5-5 แบ่งใส่ 2 เดือนต่อครั้ง อัตรา 60 กก./ไร่/ปี
  • ข้อควรระวัง: อย่าให้ปุ๋ยมากเกินไป จะทำให้รากเน่า

การดูแลอื่นๆ

  • พรวนดิน: หมั่นพรวนดินให้ร่วนซุย ถ้าดินแข็งน้ำจะซึมไม่ดี
  • กลบโคนต้น: เมื่อลำต้นยืดสูงขึ้น ต้องกลบดินให้ชิดใบล่างสุด
  • ถอนหน่อ: ถอนต้นเล็กๆ ทิ้งเมื่อแตกหน่อมาก

การขยายพันธุ์

1. การแยกหน่อ (วิธีที่นิยมที่สุด)

  1. ใช้พลั่วหรือเสียมขุดหน่อที่มีความสูงประมาณ 20 ซม.
  2. ใช้มีดคมตัดแยกออกจากต้นแม่
  3. วางไว้ในที่ร่มเย็น 7-10 วัน จนรอยตัดแห้ง
  4. นำไปปลูกในหลุมที่เตรียมไว้

2. การตัดเหง้า

  1. ใช้มีดตัดลำต้น โดยให้มีตาหรือข้ออย่างน้อย 1 ตา
  2. ผึ่งให้รอยตัดแห้ง
  3. นำไปปักชำในดินร่วนผสมทราย

3. การปักชำยอด

ตัดยอดที่มีใบ 3-4 ใบ ผึ่งให้แห้ง แล้วนำไปปักชำ

4. การเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ

ใช้ในการผลิตเชิงพาณิชย์ขนาดใหญ่

โรคและศัตรูพืช

โรคที่พบบ่อย

โรค สาเหตุ อาการ การรักษา
โรครากเน่า เชื้อรา Pythium, Phytophthora ใบเหลือง เหี่ยว รากเป็นสีน้ำตาล ลดการรดน้ำ ใช้สารป้องกันเชื้อรา
โรคลำต้นเน่า น้ำขังในกาบใบ โคนต้นเน่า มีกลิ่นเหม็น ตัดส่วนที่เน่าออก ผึ่งให้แห้ง
โรคใบจุด เชื้อรา มีจุดสีน้ำตาลบนใบ ตัดใบที่เป็นโรคทิ้ง ฉีดพ่นสารป้องกันเชื้อรา

แมลงศัตรูพืช

แมลง อาการ การกำจัด
เพลี้ยแป้ง เห็นกลุ่มก้อนสีขาวเกาะตามใบ ใบหงิกงอ ฉีดน้ำสบู่ หรือใช้สารกำจัดแมลง
เพลี้ยอ่อน ดูดกินน้ำเลี้ยง ใบเหี่ยว ใช้น้ำมันนีม หรือสารชีวภัณฑ์
ไรแดง ใบซีดเหลือง มีใยบางๆ ฉีดพ่นน้ำบ่อยๆ ใช้สารกำจัดไร

ข้อควรระวังในการใช้

การใช้ภายนอก

  • ทดสอบการแพ้ก่อน โดยทาบริเวณท้องแขนด้านใน รอดู 24 ชั่วโมง
  • ล้างยางสีเหลืองออกให้สะอาด เพราะอาจทำให้แพ้
  • ใช้วุ้นสดภายใน 6 ชั่วโมงหลังตัด
  • วุ้นไม่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อ ควรทำความสะอาดก่อนใช้

การรับประทาน

  • ห้ามใช้ในหญิงตั้งครรภ์ – อาจทำให้แท้งได้
  • ห้ามใช้ในผู้มีประจำเดือน
  • ห้ามใช้ในผู้ป่วยริดสีดวงทวาร
  • ไม่ควรรับประทานปริมาณมากหรือติดต่อกันนาน
  • อาจมีผลข้างเคียง: ปวดท้อง ท้องเสีย
  • ระวังการใช้ร่วมกับยาเบาหวาน ยาหัวใจ ยาขับปัสสาวะ
  • ห้ามใช้ในเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี

สูตรการใช้ประโยชน์

สูตรพอกหน้าบำรุงผิว

  1. เลือกใบล่างสุดที่อวบใหญ่ อายุมากกว่า 1 ปี
  2. ล้างน้ำให้สะอาด ปอกเปลือกออก
  3. ขูดวุ้นใส ล้างยางสีเหลืองออก
  4. บดหรือปั่นให้ละเอียด
  5. ทาบนใบหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วล้างออก

สูตรรักษาแผลไฟไหม้

  1. ล้างแผลด้วยน้ำสะอาด
  2. ตัดใบว่านหางจระเข้สด ล้างสะอาด
  3. ผ่าใบ ขูดวุ้นใส
  4. ทาวุ้นบนแผลบางๆ วันละ 2-3 ครั้ง

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

1. ว่านหางจระเข้กินสดได้ไหม?

ได้ครับ แต่ต้องล้างยางสีเหลือง (Anthraquinone) ออกให้หมดก่อน เพราะอาจทำให้ท้องเสียหรือแพ้ได้ ควรรับประทานในปริมาณพอเหมาะ และไม่ควรกินติดต่อกันนานเกินไป

2. ว่านหางจระเข้ปลูกในบ้านได้ไหม?

ได้ครับ แต่ต้องวางในที่ที่ได้รับแสงแดดเพียงพอ อย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน หรือวางริมหน้าต่างที่มีแสงส่องถึง และระวังอย่ารดน้ำมากเกินไป

3. ทำไมว่านหางจระเข้ใบเหลือง?

สาเหตุหลักคือรดน้ำมากเกินไปจนรากเน่า หรือดินระบายน้ำไม่ดี วิธีแก้คือลดการรดน้ำ ตรวจสอบดินให้ระบายน้ำได้ดี และอาจต้องเปลี่ยนดินใหม่

4. ว่านหางจระเข้รดน้ำบ่อยแค่ไหน?

รดน้ำเมื่อดินแห้งสนิทเท่านั้น โดยทั่วไปหน้าร้อนรดสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หน้าฝนอาจไม่ต้องรดเลย ใช้นิ้วจิ้มลงในดินลึก 2 นิ้ว ถ้ายังชื้นอยู่ยังไม่ต้องรด

5. ว่านหางจระเข้มีพิษต่อสัตว์เลี้ยงไหม?

มีพิษเล็กน้อยต่อสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะแมวและสุนัข หากกินเข้าไปอาจทำให้ท้องเสีย อาเจียน หรือซึม ควรวางให้ห่างจากสัตว์เลี้ยง

6. ว่านหางจระเข้ทาหน้าทุกวันได้ไหม?

ได้ครับ แต่ควรทดสอบการแพ้ก่อน และล้างยางออกให้สะอาด สำหรับบางคนที่ผิวบอบบาง อาจใช้วันเว้นวันจะดีกว่า

7. ว่านหางจระเข้ช่วยรักษาสิวได้จริงไหม?

ช่วยได้ครับ เพราะมีสารต้านแบคทีเรียและลดการอักเสบ แต่ได้ผลดีกับสิวอักเสบมากกว่าสิวหัวดำหรือสิวอุดตัน

8. ว่านหางจระเข้กี่ปีถึงจะตัดใช้ได้?

ต้นที่มีอายุ 1 ปีขึ้นไปจึงจะมีสารสำคัญเพียงพอ และควรเลือกตัดใบล่างสุดที่อวบใหญ่ เพราะมีวุ้นมากที่สุด

9. ว่านหางจระเข้ปลูกแดดจัดหรือร่มเงา?

ชอบแดดจัด ควรได้รับแสงแดดโดยตรงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าปลูกในร่มเงาต้นจะไม่แข็งแรงและมีวุ้นน้อย

10. ว่านหางจระเข้ใบเหี่ยวแก้อย่างไร?

ตรวจสอบว่ารดน้ำน้อยเกินไปหรือมากเกินไป ถ้าดินแห้งมากให้รดน้ำ ถ้าดินชื้นตลอดให้หยุดรดและตรวจดูว่ารากเน่าหรือไม่ อาจต้องเปลี่ยนดินและกระถางใหม่

บทความที่เกี่ยวข้อง

อัปเดตล่าสุด: ธันวาคม 2025

© KASETIDEA – สงวนลิขสิทธิ์

คู่มือการดูแล

💧 การรดน้ำ

รดน้ำน้อย สัปดาห์ละครั้ง รอให้ดินแห้งสนิทก่อนรดน้ำครั้งต่อไป

☀️ แสงแดด

ต้องการแสงแดดโดยตรง วางกลางแจ้งหรือหน้าต่างที่ได้รับแสงแดดเต็มที่

🌱 ดินที่เหมาะสม

ดินร่วนซุย ปนทราย ระบายน้ำดี (ดินร่วน 2 ส่วน + ทราย 1 ส่วน + ปุ๋ยหมัก 1 ส่วน)

🌡️ อุณหภูมิ

20-35°C (ทนร้อนได้ดี ไม่ทนหนาวจัด)

💨 ความชื้น

ความชื้นต่ำ (30-40%) เหมาะกับพืชทะเลทราย

🌾 การให้ปุ๋ย

ปุ๋ยคอก/ปุ๋ยหมัก เดือนละครั้ง หรือปุ๋ยเคมีสูตร 30-5-5 แบ่งใส่ 2 เดือนต่อครั้ง

✂️ การตัดแต่ง

ตัดใบล่างที่แก่หรือแห้งออก ถอนหน่อที่มากเกินไป

🪴 การย้ายกระถาง

เปลี่ยนกระถางเมื่อต้นสูงเท่ากับกระถาง กระถางใหม่ควรมีขนาด 3 เท่าของก้อนดินราก

🌱 การขยายพันธุ์

1. แยกหน่อ - วิธีที่นิยมที่สุด ใช้หน่อสูง 20 ซม. ผึ่งให้แห้ง 7-10 วัน แล้วปลูก
2. ตัดเหง้า - ตัดลำต้นให้มีตาอย่างน้อย 1 ตา ผึ่งแห้งแล้วปักชำ
3. ปักชำยอด - ตัดยอดที่มีใบ 3-4 ใบ
4. เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ - สำหรับการผลิตเชิงพาณิชย์

คุณสมบัติพิเศษ

สมุนไพรมหัศจรรย์ มีสรรพคุณทางยามากมาย รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก บำรุงผิว รักษาสิว ใช้เป็นยาระบาย ช่วยฟอกอากาศ ทนทานต่อความแห้งแล้ง ปลูกง่ายดูแลง่าย มีอายุยืนได้ถึง 100 ปี

ประโยชน์

💊 ทางยา:

ภายนอก: รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก, บำรุงผิว, รักษาสิว, รักษาผิวไหม้แดด, บำรุงเส้นผม, แก้ผื่นคัน แมลงกัดต่อย
ภายใน: รักษาแผลในกระเพาะอาหาร, บรรเทากรดไหลย้อน, ยาระบาย, รักษาสุขภาพช่องปาก, ลดน้ำตาลในเลือด

เครื่องมือ

เข้าสู่ระบบเพื่อบันทึกพืชนี้

เข้าสู่ระบบ

ความคิดเห็นและคำถาม

แสดงความคิดเห็น

อีเมลของคุณจะไม่ถูกเผยแพร่